ทำบุญแบบผิดวิธี ยังไงก็ไม่ได้บุญ

เรื่องของการทำบุญของชาวพุทธนั้นเป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชนหลายคนมักจะเข้าใจกันว่า การทำบุญนั้นต้องเจาะจงเพียงแค่ถวายของ ตักบาตรหรือทำสังฆทานเท่านั้น แต่การทำบุญเหล่านี้เป็นเพียงปลายทางหนึ่งของการทำบุญเท่านั้น เพราะการทำบุญที่แท้จริงไม่ได้จำกัดว่าผู้รับจะต้องเป็นแค่พระสงฆ์เท่านั้น

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นจะเป็นบิดามารดาของเราก็ได้ เพราะบิดามารดาของเรานั้นก็เปรียบเสมือนพระในบ้าน หรือการทำบุญจะทำให้คนที่ตกทุกข์ได้ยากก็ได้เช่นกัน หรือแม้กับสัตว์ก็เรียกว่าเป็นอีกปลายทางของการทำบุญ เพราะการทำบุญที่แท้จริงนั้น คือการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส จากความเห็นแก่ตัว จากความมีจิตใจคับแคบ ความตระหนี่ ความหลงใหลและความอยากได้

ดังนั้นการทำบุญก็คือการตัดความเห็นแก่ตัว ตัดกิเลสต่าง โดยหวังผลให้กับผู้อื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งบุญที่แท้จริง จึงประกอบด้วยกุศลธรรม เป็นการทำความดีทางกาย วาจาและก็ใจ ซึ่งจะทำได้เป็นความสุขกายสบายใจ แต่ในปัจจุบันนั้นการทำบุญเริ่มหายจากแก่แท้ เพราะเข้าใจผิดว่าทำบุญต้องได้บุญ และไมใช่ว่าทำบุญทุกครั้งจะได้บุญเสมอไป ยิ่งถ้าเข้าข่ายสามข้อนี้แล้วนั้นเผลอๆ อาจจะได้บาปแทนด้วยซ้ำ

ทำบุญโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ทำบุญได้บาป เนื่องจากความไม่รู้และอาจจะทำให้วิบากกรรมติดตัวไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นการปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปล่อยนก ไถ่ชีวิตโคกระบือ ซึ่งเป็นที่นิยมในการทำบุญมากเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งการช่วยชีวิตสัตว์เป็นเรื่องที่ดี

แต่หากเมื่อปล่อยไปแล้วโดยไม่รู้ธรรมชาติของสัตว์นั้น สัตว์เหล่านั้นจะมีชีวิตอย่างไร เช่นปล่อยเต่าลงไปในน้ำ สุดท้ายเต่าก็จะตาย กลายเป็นบาปของผู้ปล่อย ดังนั้นหากจะปล่อยสัตว์ประเภทไหน ก็ต้องเรียนรู้ธรรมชาติของสัตว์เสียก่อน ไม่งั้นก็จะได้บาปแทนบุญ 

ทำบุญโดยหวังผลตอบแทน ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของคนทุกคนที่มักจะขอพรหรือภาวนาให้ชีวิตพบเจอแต่ความสุข ซึ่งตามหลักของการทำบุญแล้วนั้น การทำบุญจะต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ ไม่หวังผลตอบแทน  ถึงจะเป็นบุญที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง เพราะจิตที่คิดจะให้แก่ผู้อื่นคือการทำลายความเห็นแก่ตัวที่สูงส่ง ซึ่งการทำบุญที่มีกิเลสของตัวเองชักนำจะไม่เกิดผลบุญอะไรเลย

ทำบุญโดยที่ผู้ให้หรือผู้รับไม่บริสุทธิ์ ซึ่งการทำบุญนั้น ผู้ให้ต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์ และของที่ให้ต้องไม่คดโกงใครมา รวมไปถึงผู้รับต้องช่วยให้เค้าพ้นจากวิบากกรรม ไม่ใช่เป็นการส่งเสริมให้เค้าไปทำผิดหรือยังวนเวียนอยู่กับวิบากกรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้บุญและยังเป็นบาปอีกด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยหุ้นออนไลน์

ศึกโซเชียลมีเดีย

ศึกโซเชียลมีเดีย ต้องระอุ เมื่อแอพTiktok ได้ท้าชนกับแอพFacebook

ที่กล่าวก็คือแอพติ๊กต๊อก(Tiktok)นั้น เป็นแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียสัญชาติจีน ได้ที่เปิดหน้าท้าชนกับเฟซบุ๊ก(Facebook) ทั้งการพยายามดึงทรัพยากรบุคคลเก่งๆ ระดับหัวกะทิจากเฟซบุ๊กให้ย้ายมาทำงานที่Tiktok แทนและการย้ายสำนักงานมาเปิดอยู่ข้างๆ สำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊กเลย

ย้อนกลับมาดูทางฝั่งเฟซบุ๊กบ้าง แม้ตอนนี้เฟซบุ๊กจะยังครองตำแหน่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกโซเชียลมีเดียที่ยังมีการเจริญเติบโตต่อไปอีกได้เรื่อยๆ แต่ในบางแง่มุมและในบางกลุ่มคนก็เริ่มจะคิดกันแล้วว่ายักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กเป็นยักษ์ใหญ่ที่อุ้ยอ้ายไม่ค่อยจะทันสมัยสักเท่าไหร่ โดยข้อมูลจาก https://www.techspot.com/news/80837-more-teenagers-abandoning-facebook-youtoub-snapchat-instagram.html อ้างอิงถึงงานวิจัยที่สำรวจมาจากกลุ่มวัยรุ่นGenerationZ(เกิดหลังจาก ค.ศ. 1996) ชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง13-21ปี จำนวน1,884คน

ว่าโซเชียลมีเดียอะไรบ้างที่พวกเขาเคยใช้ไปแล้วในปัจจุบันซึ่งที่ผลออกมานั้น เฟซบุ๊กนำมาอันดับหนึ่งด้วยจำนวนร้อยละ 30 ตามมาด้วยอันดับสองคือ กิ๊กแมสเซนเจอร์ (Kik Messenger)ที่ร้อยละ29.7 ถัดมาอันดับสามคือ สไกป์(Skype) อยู่ที่ร้อยละ24.6 ส่วนอันดับที่4คือทวิสเตอร์(Twiter) อยู่ที่ร้อยละ21 และอันดับห้าคือ อินสตราแกรม(Instagram) อยู่ที่ร้อยละ20.3  ก็คือเด็กวัยรุ่นอเมริกานั้รมีจำนวนถึงเกือบ1ใน3เลย

ที่ได้เลิกใช้เฟซบุ๊กไปแล้ว สอดคล้องกับผลการศึกษาอื่นๆที่พบว่า เฟซบุ๊กนั้นกำลังสูญเสียฐานผู้ใช้กลุ่มวัยรุ่นไปอย่างรวดเร็วโดยวัยรุ่นอเมริกันยุคใหม่นั้นดูจะนิยมใช้ สแนปแชต(Snapchat) ยูทูป(Youtoub) และอินสตราแกรม มากกว่าเฟซบุ๊กเสียอีกเห็นไหมว่าในโลกที่มีความรู้ใหม่ๆหมุนอย่างมีพลวัตอยู่ตลอดเวลาในโลกที่คนเก่งๆ

กระหายที่จะดิ้นรนพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา มากกว่าการอยู่นิ่งๆสบายๆในComfortzone) อันมั่นคงและในโลกที่แต่ละประเทศแต่ละบริษัทห้ำหั่นแข่งขันกันทุกวิถีทางเพื่อที่จะผงาดขึ้นมาเป็นผู้กุมชัยชนะให้ได้นี้ ในโลกเช่นนี้มีอะไรๆที่ไม่น่าเป็นไปได้มันก็สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ และเฟซบุ๊กจะทำยังไงเพื่อที่จะรักษาบังลังก์แห่งเจ้าโซเชียลมีเดียไว้ให้ได้

 

ขอบคุณ  ซื้อหวยฮานอยออนไลน์   ที่ให้การสนับสนุน

ความเชื่อเกี่ยวกับการเล่นพนัน

การพนันอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ต่างไปจากความเชื่อต่าง ๆ นา ๆ ที่เรียกได้ว่าอยู่รอบตัว หรืออยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เลยก็ว่าได้ โดยเรื่องความเชื่อต่าง ๆ ก็ต้องมีข้อหวงห้าม หรือการกระทำต่าง ๆ ที่ทำให้คนที่เชื่อเรื่องนี้ ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่ก็กลัวกันทั้งนั้น ความเชื่อเกี่ยวกับการพนันก็เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นข้อห้าม สิ่งที่ควรทำ หรือไม่ควรทำเมื่อต้องการเล่นการพนัน ความเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่แค่คนไทยที่เชื่อเท่านั้น คนต่างประเทศก็มีความเชื่อเรื่องการเล่นการพนันด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความเชื่อของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน และแต่ละประเทศว่าเชื่อในเรื่องลี้ลับในรูปแบบใด ดังนั้น วันนี้ทาง  หวยออนไลน์   ของเราจะมาบอกความเชื่อเกี่ยวกับการเล่นพนันว่าจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

  • ห้ามนำเงินที่ได้จากลูกหนี้มาเล่นการพนัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ได้รับเงินจากการใช้หนี้ก่อน เพราะบางคนเชื่อว่าหากนำเงินที่พึ่งได้รับจากลูกหนี้มานำมาเล่นการพนันจะทำให้เงินส่วนนี้เสียไปจนหมด ดังนั้น วิธีการแก้เคล็ดของพวกเขาคือ จะนำเงินนี้เก็บไว้ก่อนสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยนำมาเล่นการพนัน
  • เรื่องของผม ความเชื่อของการเล่นการพนันคือ ห้ามตัดผมก่อนที่จะไปเล่นการพนันอย่างเด็ดขาด  เพราะเขาเชื่อกันว่า เหมือนกับเราไปตัดโชคลาภของตนเองออกไป ดังนั้น หากใครต้องการมีโชคเกี่ยวกับการพนัน ห้าตัดผมอย่างเด็ดขาด 
  • การกู้ยืม การที่เราจะไปเล่นการพนันไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม สิ่งที่มักพบเจอกันบ่อยเป็นอย่างมาก ก็คงจะเป็นการขอกู้ยืม ซึ่งสิ่งนี้เป็นความเชื่อของใครหลายคน หากอยู่ในวงกานพนันแล้วมีคนมาขอกู้ยืม ห้าให้โดยเด็ดขาด เพราะหากเราเล่นการพนันในช่วงขาขึ้น ในเวลานั้นห้ามนำเงินไปให้คนอื่นเด็ดขาด 

นอกจากนี้ ความเชื่อเกี่ยวกับการเล่นการพนัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะมีความเชื่อในรูปแบบไหน และนั่นก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล อาจจะมีคนที่เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างก็ได้ หากใครที่ไม่เชื่อก็จะมองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องธรรมดาเท่านั้น แต่สำหรับคนที่เชื่อพวกเขาเกล่านั้นก็อาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งก็ได้ ดังนั้น ก็อยากให้ลองพิจารณาดูเป็นบางเรื่องว่า เรื่องไหนที่ควรเป็นมารยาทพื้นฐานที่ควรมีต่อวงการการพนัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการพนันจะมีความเชื่อ หรือมีข้อห้าม ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะทำตามหรือไม่ ทั้งนี้ หากใครที่เล่นการพนันอยู่ก็อยากให้ใช้สติมาก ๆ ระมัดระวังทุกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว

 

สร้างเกราะป้องกันโควิด-19

เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดCovid-19มีหลายท่านได้ถามเข้ามากันเยอะเลยทีเดียวในเรื่องของการประพฤติปฏิบัติตัวในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวสารที่เข้ามามากเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นเรื่องความน่ากลัวหรือการกลัวว่าจะติดเชื้อวันนี้เราก็จะมาแชร์ข้อมูล

ซึ่งในวิกฤตแบบนี้เราต้องช่วยกันทุกฝ่ายโดยเฉพาะสิ่งสำคัญคือการให้กำลังใจบุคลลากรทางการแพทย์และหลายๆทานที่ได้ต่อสู้กับวิกฤตนี้อยู่คราวนี้เรามาดูในเรื่องของการป้องกันเราอยากจะแบ่งให้เข้าใจง่ายเป็นสองส่วนส่วนที่หนึ่งก็คือป้องกันจากนอกสู่ใน

โดยในการป้องกันจากนอกสู่ในก็คือไม่อยากให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกินร้อนคือรับประทาทนอาหารอะไรก็ตามเจ้าไวรัสโควิดกลัวความร้อนให้กินร้อนให้มากที่สุดอาหารเย็นๆอาหารดิบๆช่วงนี้ต้องหลีกเลี่ยง

สำหรับช้อนกลางการใช้ช้อนกลางแน่นอนหรืออาจจะยกระดับขึ้นไปอีกในช่วงนี้ถ้าไปที่ทำงานหรือการไปเจอพบปะผู้คนควรจะทานข้าวคนเดียวไปเลยไม่ควรสั่งมาหลายๆอย่างแล้วก็แบ่งกันควรจะเป็นlndividualของใครของมัยกินร้อนช้อนกลางและล้างมือ

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเราคือมาแปะมาติดอยู่กับตัวเราอยู่บนวัสดุสิ่งของเราเช่นโทรศัพท์มือถือเราเผลอไปจับเรามองไม่เห็นเขาหรอกเพราะว่าไวรัสเล็กมากๆเราเผลอไปจับสู่ดวงตาเราจมูกเราปากเราก็จะเข้าไปสู่ร่างกาย

เพราะฉะนั้นกินร้อนช้อนกลางล้างมือจะล้างมือด้วยสบู่มีการวิจัยออกมาเยอะว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ผนังเขาเป็นไขมันการโดนสบู่ทำให้ตัวเขาตายการฉีดสเปรย์แอลกฮอล์ที่เข้มเกิน70%นี่ก็ช่วยได้ดีที่สำคัญเราอยากจะเติมอีกนิดคือดวงตาเรานี้ก็เป็นเยื่อบุเยื่อบุก็สามารถที่จะเจอกับไวรัสและเข้าไปได้เหมือนกัน

นอกจากนี้หากเป็นไปได้ใส่Goggleหรือที่เรียกว่าแว่นเป็นแว่นที่สามารถช่วยป้องกันได้เพิ่มเติมก็จะช่วยได้หรือมีหลายคนทำเป็นFace Shieldหรือว่าเป็นพลาสติกกันละอองกันการกระจายนี่คือสิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งเรามีเรื่องการกินร้อนการใช้ช้อนกลางการล้างมือการใส่แมสก์การปกป้องดวงตาเรา

เนื่องจากนี้ทั้งหมดจะเป็นการช่วยให้ได้มากที่สุดในเรื่องการป้องกันจากนอกสู่ในและที่สำคัญที่สุดคือการทำSocial Distancingหรือการมีระยะห่างในช่วงนาทีนี้เองเราอยากจะช่วยรณรงณ์ว่าการรวมกลุ่มไม่ควรเกิน2คนและถ้าตามที่การวิจัยCDCออกมาเชื้อสามารถกนะจายได้ประมาณสักเมตรกว่าเราต้องยอู่ห่างกันอย่างน้อยสองเมตร

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

5 เทคนิคการลดน้ำหนัก ในช่วงที่ต้องอยู่บ้าน

เพื่อนๆ ก็คงเห็นแล้วว่าสถารณ์จากโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ใครๆก็ต้องกักตัวหรือทำงานที่บ้านมากขึ้นแต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าการที่เราต้องทำงานอยู่บ้านก็ดี หรือ ต้องอยู่บ้านเฉยๆ เป็นช่วงที่เพื่อนๆ หรือใครก็ตามที่อยู่ที่บ้าน มีโอกาสน้ำหนักขึ้นได้ง่ายมากๆ ดังนั้นวันนี้เราเลยมีวีที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆ ลดน้ำหนักหรือเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ไม่อ้วนขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้านละ เราไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง…

เทคนิคที่หนึ่ง : กินโปรตีนมากๆขึ้นและกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง

เพื่อนๆเชื่อหรือไมการกินโปรตีนมากขึ้นจะทำให้เราอยากอาหารน้อยลง หรือ อิ่มนานขึ้นและการกินโปรตีนมากขึ้นยังช่วยเรื่องการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนด้วยนะ เพราะว่าอาหารประเภทโปรตีนนั้นจะใช้พลังงานในการย่อยตัวมันเอง และในขณะเดียวกันอาหารประเภทโปรตีนกินแล้วจะอิ่มอยู่ท้องนานได้ดี และรักษามวลกล้ามเนื้อในร่างกายได้ด้วยนะ และที่สำคัญกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงด้วยนะ

เทคนิคที่สอง : กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น

การกินผักหรือผลไม้ให้มากขึ้น คือการเพิ่มไฟเบอร์หรือกากใยอาหารให้กับเราร่างกายเรานั้นเอง เพื่อที่จะได้ให้ระบบย่อย หรือ ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้นและอาหารประเภทนี้ก็ยงัทำให้เราอิ่มเร็วและแคลอรี่ไม่เยอะอีกด้วยนะ และยังสามารถวิตามินและเกลือแร่ที่เราต้องการได้ด้วยนะ 

เทคนิคที่สาม : ก่อนกินข้าว พยายามจิบน้ำให้บ่อยๆและดื่มน้ำให้ได้เยอะๆ

การที่เพื่อนๆจะลดน้ำหนักได้ดี เรื่องการดื่มน้ำเปล่ามากๆ นั้นสามารถช่วยได้นะ เพราะว่าการที่เราดื่มน้ำเปล่ามากๆ น้ำจะเข้ามาทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อย ระบบขับถ่าย และระบบเผาผลาญไขมันอีกด้วย นอกจากนี้การดื่มน้ำหรือจิบน้ำๆบ่อยก่อนกินข้าวจะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นด้วยนะ

เทคนิคที่สี่ : ไม่หิวไม่ต้องหาอะไรกิน 

ถ้าเราไม่ได้รู้สึกหิว เราต้องฝึกนิสัยไม่หิวก็ไม่ต้องหาอะไรกินนะ เพราะว่าการที่หลายๆ คน อ้วนง่ายหรือลดน้ำหนักไม่ได้ นั้นเป็นเพราะว่าการที่เรามาได้หิว แต่เกิดจากการที่เหงาปากอยากหาอะไรเคี้ยวเล่น จะทำให้เรากินอาหารหรือขนมโดยไม่จำเป็นเลย ดังนั้นเลิกเถอะ

เทคนิคที่ห้า :รู้สึกหิวนิดหน่อยให้ ดื่มคาเฟอีแทน

หากเพื่อนๆรู้สึกหิวขึ้นมานิดหน่อย แต่ไม่ได้หิวจัดหรืออยากกินอาหารอะไร แนะนำว่าเพื่อนๆ ลองหันมาดื่มคาเฟอีนแทนดูสิ อย่างชาเขียวร้อนหรือกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล มันจะช่วยคลายความหิวได้นะ!

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

ไม่อยากเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากการกินส้มตำควรทำอย่างไร

     เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าถึงแม้ส้มตำจะรสชาติแสนอร่อยแต่ถ้าหากมีเยอะมากก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันเพราะมีหลายโรคมากที่เมื่อกินส้มตำเข้าไปแล้วจะทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆเหล่านั้นโดยส่วนใหญ่แล้วส้มตำนั้นจะทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบการทำงานของภายในร่างกายไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจหรือแม้แต่โรคไตรวมถึงเกี่ยวกับระบบความดันโลหิตสูงได้ยังมีผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องของโรคเบาหวานและท้องเสียอีกด้วย

      อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการกินส้มตำจะก่อให้เกิดโรคได้มากมายแต่เราก็สามารถกินส้มตำได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆเหล่านั้นได้มาดูกันว่าวิธีการที่เราจะกินส้มตำอย่างปลอดภัยและไม่มีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเรานั้นต้องทำอย่างไรบ้าง

       อันดับแรกเลยในการเลือกกินส้มตำนั้นเราควรจะต้องเลือกร้านที่ตำส้มตำด้วยความสะอาด  ความสะอาดนี้รวมทั้งภาชนะที่ใส่ส้มตำอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำส้มตำรวมถึงวัตถุดิบในการทำส้มตำไม่ว่าจะเป็นผัก รวมถึงปูดอง  พริกน้ำตาลน้ำปลาทั้งหมดควรจะต้องมีความสะอาดปราศจากเชื้อโรคหรือเชื้อราต่างๆแน่นอนว่าหากเราไปกินที่ร้านอาหารอาจจะมีความเสี่ยงในการที่ส้มตำอาจจะไม่สะอาดเนื่องจากเราไม่รู้ว่าเวลาพ่อค้าแม่ค้าที่ตำส้มตำรักษาความสะอาดได้มากแค่ไหนแค่นั้นทางที่ดีที่สุดหากเราอยากกินส้มตำจึงควรทำกินเองจะทำให้เรานั้นมั่นใจได้ว่าส้มตำที่เรากินนั้นสะอาดและปลอดภัย

      และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือเราสามารถควบคุมปริมาณวัตถุดิบที่จะใช้ในการทำส้มตำได้ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำตาล  หรือปริมาณของน้ำปลารวมถึงเราสามารถที่จะงดการใส่ผงชูรสได้เพราะถ้าหากเป็นร้านอาหารส่วนใหญ่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายมักจะเสริมความอร่อยด้วยการใส่ผงชูรสในปริมาณมากนั่นเอง

     อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องของความสะอาดของจานที่ใส่ส้มตำก็มีผลด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นช้อนหรือจานที่ใส่ส้มตำควรมีความสะอาด และการกินส้มตำนั้นก็ไม่ควรกินบ่อยมากจนเกินไปดังนั้นในช่วง 1 สัปดาห์ปริมาณส้มตำที่เรากินนั้นควรจะกินเพียงแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นหากมากกว่านี้จะส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อร่างกายของผู้ที่กินนั่นเอง

         แน่นอนว่าเกี่ยวกับเรื่องของการกินส้มตำนั้นเราควรจะมีการเคี้ยวส้มตำให้ละเอียดทุกครั้งก่อนกลืนเพราะการตำส้มตำนั้นใช้เป็นมะละกอดิบในการทำซึ่งค่อนข้างที่จะย่อยนาคดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อระบบกระเพาะอาหารที่จะต้องทำงานหนักเราควรจะเคี้ยวให้ละเอียดและที่สำคัญคนกินส้มตำตอนที่ท้องไม่ว่างและควรกินควบคู่กับอย่างอื่นเพื่อที่จะได้สารอาหารครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นไก่ย่างหรือน้ำตกรวมถึงขนมจีนก็สามารถกินควบคู่ได้

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

เล่าประสบการณ์การลดน้ำหนัก

เล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักของสาวออฟฟิศที่ไม่ค่อยมีเวลา

วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์จากคนที่นั่งทำงานหน้าคอมเป็นหลัก ใช่แล้วเราเองทำงานเป็นสาวออฟฟิศละ และไม่ค่อยมีเวลาได้ไปออกกำลังกายสักเท่าไร  เราเจอปัญหาตอนที่เริ่มเข้ามาทำงานสักพักไม่ได้เจอปัญหาเรื่องงานหรือกับคนที่ทำงานหรอกนะ เพียงแต่เราเองเจอปัญหาเรื่องความอ้วน!! เพราะว่าเราทำงานไม่นานเท่าไรน้ำหนักเราก็ขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดเลย

เราเลยพยายามหาวิธีจะลดน้ำหนัก ลองผิดลองถูกมาสารพัด ในช่วงที่เราใช้วิธีการลดน้ำหนักผิดๆ และหันไปพึ่งยาลดความอ้วน หรือ อาหารเสริมลดน้ำหนัก เลยทำให้เรามีระบบเผาผลาญที่ไม่ดีหลังจากที่หันไปพึ่งยาลดความอ้วนและตอนเลิกกินยาลดน้ำหนัก เราก็ต้องมากู้ระบบเผาผลาญสักพักเลยละ และนั้นเองก็เป็นที่มาของการที่เราเริ่มหันมาลดน้ำหนักแบบถูกวิธี และมันถึงช่วยทำให้เรากลับมามีระบบเผาผลาญได้ปกติอีกครั้ง เราเลยอยากจะแช่ร์วิธีการลดน้ำหนักของเราที่ทำแล้วได้ผลมาให้เพื่อนๆที่สนใจจะลดน้ำหนักละ…ไปดูกันเถอะ

ตื่นมาปุ๊บ กินน้ำอุ่น ทุกครั้ง

เราตื่นมา แล้วกินน้ำอุ่นอย่างน้อย 1 แก้วทุกวัน เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่า มันช่วยเรื่องการกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกายเราได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะระบบขับถ่าย

กินมื้อเช้าอย่างราชา

เรากินอาการที่ดีมีประโยชน์ โดยเลือก แป้งดี โปรตีนดีและไขมันดี และกินมื้อเช้าอย่างราชา ตอนเช้าเราจะกินให้อิ่มไปเลย

เน้นการกินโปรตีนให้มาก

เราก็กินอาหารประเภทโปรตีนให้มากขึ้น เพราะว่าการที่เรากินโปรตีนมากขึ้น มันช่วยเรื่องทำให้เราอิ่มท้องดี แล้วเราไม่สูญเสียกล้ามเนื้อเวลาที่เราลดน้ำหนัก

หันมาทำอาหารกินเอง

เราเลือกที่จะหันมาทำอาหารเอง เพราะต้องการควบคุมปริมาณและรสชาติอาหาร เพื่อที่จะได้คลีนที่สุดเท่าที่เราต้องการ

ลดการกินเค็ม หรือลดโซเดียม

เราปรุงอาหารให้น้อยๆ ลดการกินเค็มและหันมาใช้เครื่องปรุงที่ลดโซเดียมหรือใช้เกลือไปเลยย

ลดของหวาน ของมันและของทอด

เราไม่กินของหวาน ไม่กินของมัน และไม่กินของทอดในช่วงที่ลดน้ำหนักเลย 

เน้นการกินผักและผลไม้เยอะขึ้น

เรากินผักและผลไม้ให้มากขึ้น แล้วเรารุ้สึกไม่ค่อยหิวจุบจิบเลยละ และเราว่าเราได้วิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการด้วย

ดื่มน้ำให้มากๆ 

เราดื่มน้ำให้มากๆ เพราะว่ามันช่วยเรื่องผิวพรรณด้วยและช่วยทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดี

ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม 

เราออกกำลังกายอย่างพอดีๆ ไม่ออกน้ำหนักแบบบ้าคลั่งหรือหักโหมอีกเลย

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

นิสัยที่จะทำให้เพื่อนๆ ผอมยาก

นิสัยที่จะทำให้เพื่อนๆ ผอมยาก รู้ไว้แล้วรีบเปลี่ยนนิสัยกันเถอะ!

เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่อยากลดน้ำหนักหรือลดควาอม้วนแต่ ลดเท่าไรก็ไม่ได้สักที เพื่อนๆและสาวๆ เคยสังเกตุหรือไม่ว่าเป็นเพราะอะไร….จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะว่านิสัยของเพื่อนๆและสาวๆ เองก็ได้นะ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าเพื่อนๆและสาวๆ นั้นมีนิสัยที่จะทำให้ไม่ผอมหรือลดน้ำหนักไม่ได้หรือเปล่านะ…เราไปดูกันดีกว่า เพื่อเพื่อนๆและสาวๆ จะได้ปรับตัวและเปลี่ยนนิสัยที่ทำให้เราอ้วนกัน…

ล้มเลิกต่อการลดน้ำหนักเอาง่ายๆ

เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่ชอบบอกว่าวันนี้ลดน้ำหนัก และตั้งใจลดทั้งวันเลย อะไรก็ไม่กิน แต่พอมาอีกวันเจอของที่เราชอบหรืออยากกินก็ล้มเลิกการลดน้ำหนักเอาง่ายๆ สะงั้นเลย และนั้นเองกลายเป็นว่าแทนที่เพื่อนๆและสาวๆ จะลดน้ำหนักได้อย่างต่อเนื่องก็กลายเป็นว่าทำแล้วครึ่งๆกลางๆ และพอเพื่อนๆและสาวๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะทำให้เพื่อระบบเผาผลาญเพื่อนๆและสาวๆ ทำงานผิดปกติได้นะ มันจะงงว่าเดี๋ยวลดวันนี้กินน้อยจัง พรุ่งนี้เลิกกินเยอะสุดๆ กลายเป็นว่าระบบเผาผลาญจะทำงานผิดปกติได้นะ และจะเผาผลาญได้ม่ดีเท่าที่ควร 

ติดกินขนม

ใครที่ติดขนมนี่น่ากลัวมากเลยละ เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าชอบกินขนม ไม่ว่าจะขนมกรุบกรอบ ขนมหวาน หรือ เบเกอรี่ เพื่อนๆ และสาวๆ ไม้ต้องสงสัยเลยละว่าทำไม พยายามลดน้ำหนักหรือลดควาอ้วนไม่ได้สักที เพราะถึงเพื่อนๆและสาวๆ จะกินวันละนิดวันละหน่อย แต่อาหารหรือขนมพวกนี้ไม่ได้ให้คุณค่าหรือสารอาหารที่ดีแก่ร่างกายเราเลย นอกจากน้ำตาลและไขมันต่างๆ ดังนั้นหากเพื่อนๆและสาวๆ ยังมีนิสัยติดขนมอยู่ละก็ ไม่มีทางผอมแน่นอนเลย

ชอบกินไปด้วยทำอย่างอื่นไปด้วย

เดี๋ยวนี้ทุกคนมีมือถือติดตัวคนละเครื่องและนั้นเองก็ทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ชอบเล่นมือถือหรือทำอย่างอื่นได้ง่ายมากๆ อย่างเล่นเกมส์ ดูหนัง เปิดนู้นเปิดนี่ดู และนั้นเองทำให้การกินของเพื่อนๆและสาวๆ ไม่สามารถโฟกัสที่อาหารอย่างเดียวได้ กลายเป็นว่าเพื่อนๆ และสาวๆ กินไปอาหารไปด้วย เล่นมือถือและทำอย่างอื่นไปด้วย ซึ่งมันจะทำให้เพื่อนๆและสาวๆ กินอาหารเยอะโดยไม่รู้ตัวเลยนะ เพราะว่าการที่เรากินไปด้วยทำอย่างอื่นไปด้วย จะทำให้เราไม่สนใจสิ่งที่เรากำลังกินอยู่เลย และมันจะทำให้อ้วนได้ง่ายมากๆนะ

เพื่อนๆและสาวๆ เห็นแล้วใช่หรือไม่ ว่านิสัยที่เราเป็นอยู่ก็สามารถทำให้เราอ้วนได้ง่ายนะ

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

โรคซึมเศร้า เกิดขึ้นได้อย่างไร

ในปัจจุบันนี้ การเป็นโรคซึมเศร้านั้นอาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เพราะเนื่องจากสมองของเรานั้นมีการทำงานที่ผิดปกติขึ้น หรือมีการทำงานที่หนักเกินกว่าปกติ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะสมัยนี้การชีวิตในประจำวันของมนุษย์นั้นถือว่าเต็มไปด้วยความเครียดในบางครั้งและเก็บไว้คนเดียวจนอาจก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าขึ้นได้

เพราะว่าสมองของเรานั้นมีการทำงานที่ไม่สมดุลกัน ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เราสามารถเกิดโรคซึมเศร้าขึ้นได้มากกว่าคนอื่น  นอกจากนี้แล้วโรคซึมเศร้าก็สามารถเกิดขึ้นได้อีกกับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การคิดมาก เครียด หรืออื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะของโรคซึมเศร้านี้ อาจจะก่อให้เกิดขาดความมั่นใจในตนเอง

อาจมีความรู้สึกกังวลได้ง่าย หรือแม้แต่การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ โดยทั่วไปแล้ว โรคซึมเศร้าถือว่าเป็นโรคที่มีความร้ายแรงเป็นอย่างมากต่อชีวิตเรา เพราะสิ่งที่เป็นอยู่อาจจะเข้าไปกระตุ้นอาการป่วยต่างๆ ภายในร่างกายให้มีการแสดงอาการออกมา ซึ่งอาการป่วยภายในร่างกาย

ไม่ว่าจะเป็นโรคไหนก็ตาม หากผู้ป่วยเกิดความเครียดขึ้นมา อาจจะเข้าไปกระตุ้นอาการป่วยต่าง ๆ ภายในร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ และไม่รู้ว่าจะเกิดความเครียดขึ้นได้หรือเปล่า ดังนั้น เราจึงจะมาบอกสัญญาณเตือนเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ว่าจะมีอะไรที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า 

  1. นอนไม่หลับ อาการนอนไม่หลับนี้ สามารถบ่งบอกได้เลยว่าคุณกำลังมีความเครียด จนทำให้มีอาการนอนไม่หลับ เพราะเนื่องจากคุณอาจคิดมากในเรื่องต่าง ๆ ที่ไปเจอมา จนทำให้อาการนอนไม่หลับเหล่านี้เกิดการสะสมจนทำให้รู้สึกเพลียจนอาจหลับนานกว่าปกติ 
  2. รู้สึกหงุดหงิดง่าย ความเครียดที่เกิดการสะสมมานาน อาจทำให้คุณกับกลายเป็นอีกคนเลยก็ว่าได้ อาจจะหงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยอยากคุยกับใคร หรืออาจะมีความก้าวร้าวบ้างในบางครั้ง ซึ่งนี่ก็สามารถรู้ได้เลยว่าคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะโรคซึมเศร้า
  3. ความรู้สึกช้า เนื่องคุณเป็นคนที่มีความเครียด และคิดมากมาโดยตลอด สถานการณ์เหล่านี้สามารถบอกได้เลยว่าร่างกายของคุณนั้นกำลังจะเกิดโรคซึมเศร้า ซึ่งเราสมารถสังเกตได้ง่าย ๆ เลย คือ อาจรู้สึกเหม่อลอย เคลื่อนไหวช้า รู้สึกเพลียตลอดเวลา เป็นต้น
  4. ไม่มีสมาธิ ความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ อาจก่อให้สมองมีการทำงานที่ไม่สมดุล หรืออาจทำให้ความจำแย่ลง เพราะเครียด การจะทำในสิ่งต่าง ๆ ก็ยากที่จะตัดสินใจ หรือในบางครั้งอาจคิดที่จะฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ 

นอกจากนี้แล้ว การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคนที่กำลังเป็นโรคซึมเศร้า อาจจะเป็นแล้วหาย หรืออาจกลับมาเป็นอีก ซึ่งอาการดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ แล้วแต่ว่าคุณจะไปได้รับผลกระทบต่าง ๆ ที่ร้ายแรง หรือทำร้ายจิตใจมามากแค่ไหน 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

สาเหตุที่ทำให้มือลอกมีอะไรบ้าง

มือ  เป็นส่วนสำคัญของร่างกายสำหรับการที่เราจะต้องใช้มือในการจับสิ่งของต่างๆรวมไปถึงการเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหนึ่งของร่างกายนั่นเอง ส่วนใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของมือลอกนั้นด้วยแล้ว สำหรับสาวๆจะต้องเป็นเรื่องที่หนังอกหนักใจแน่นอนเพราะว่า การที่เรามีมือลอกนั้นอาจจะทำให้เราไม่กล้าที่จะไปจับหรือว่าสัมผัสกับใครได้

เพราะว่าอาการมือลอกจะทำให้เรารู้สึกเสียความมั่นใจไปได้นั่นเอง  หรือว่าไม่กล้าที่จะจับแขนหรือว่าสัมผัสกับคนไหนเลยก็ตามเพราะว่าการที่มีมือลอกและหยาบแห้งกระด้างนั้นเป็นเรื่องที่หนักอกหนักใจสำหรับสาวๆนั่นเองซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกสาเหตุเกี่ยวกับการที่ทำให้มือของเรานั้นลอก

       สาเหตุที่ทำให้มือลอก

  • เป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ  เพราะว่าเมื่อเข้าหน้าหนาวแล้วมีอากาศที่เย็นหรือว่ามีลมแรงมากนัก การที่เราได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นหรือว่ามีลมมากระทบที่ผิวมือหรือผิวหนังของเราก็อาจจะทำให้ผิวของเราแห้งรวมไปถึงการที่มีมือที่แห้งและแตกนั่นเอง
  • การที่เราชื่นชอบ ในเรื่องของการที่อาบน้ำอุ่นเป็นเวลาบ่อยๆหรือว่าประจำการที่เราอาบน้ำอุ่นบ่อยๆก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามีผิวที่แห้งรวมไปถึงมือของเราที่แห้งและลอกนั่นเองเพราะเป็นการ การขาดความชุ่มชื้นของร่างกายของเรานั่นเอง
  • การที่เราใช้สารเคมีหรือว่าไปโดนสารเคมีบางอย่าง  ที่ทำให้เรามีอาการแพ้สารเคมีนั้นๆหรือว่าการที่เราไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับสารเคมีบางตัว  ก็อาจที่จะทำให้เราเกิดอาการแพ้นั้นได้อย่างเช่นการที่เราไปล้างจานแล้วมือลอก  ก็เกิดจากการที่เราแพ้น้ำยาล้างจานนั่นเอง รวมไปถึงการที่เราแพ้ผงซักฟอกในขณะที่เราซักผ้านั่นเองมือของเราไปสัมผัสผงซักฟอกโดยตรงก็อาจจะทำให้มีอาการแพ้ผงซักฟอกได้อย่างนี้เป็นต้น
  • เกิดจากการที่เราขาดวิตามินบางตัวไปอย่างเช่นวิตามินเอ   วิตามินบี 3   เพราะว่าวิตามินเหล่านี้จะทำให้เรามีผิวที่แห้งรวมไปถึงการมีมือที่ลอกหยาบกร้านอย่างนี้เป็นต้นจึงทำให้เรามีนิ้วมือพี่ไม่น่าสัมผัส ดังนั้นเราควรที่จะเลือกหาเกี่ยวกับวิตามินเหล่านี้มารับประทานเพื่อที่จะบำรุงนิ้วมือของเราไม่ให้ลอกแห้ง  หยาบกร้านอย่างนี้เป็นต้น
  • การที่เราเอามือสัมผัสเกี่ยวกับความชื้นหรือความอับชื้นอยู่เป็นประจำ  ก็สามารถที่จะทำให้นิ้วมือของเราเกิดอาการแห้งและลอกได้เหมือนกัน รวมไปถึงเกี่ยวกับอาการคันที่นิ้วมือของเราด้วย

 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  หวยออนไลน์